สมาคมฟุตบอลเยอรมัน ได้ออกมายอมรับว่าทำสิ่งที่ผิดพลาดในการรับมือกับกระแสข่าวที่ เมซุต โอซิล อดีตกองกลางเพลย์เมคเกอร์ของทีม ไปถ่ายภาพคู่กับ เรเซ็ป ทายยิป เออร์โดกัน ประธานาธิบดีของตุรกี เมื่อปี 2018 ซึ่งจากกระแสในทางลบดังกล่าวของ โอซิล กลายมาเป็นเหมือนเครื่องมือของสมาคมฟุตบอลเยอรมันจับกองกลางของทีมอาร์เซนอลให้กลายมาเป็นแพะรับบาป เพื่อเบี่ยงประเด็นความล้มเหลวจากการบริหารและฟอร์มการเล่นของทีมชาติเยอรมันในศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย ซึ่งทีมอินทรีเหล็กจอดตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม โดยเฉพาะ เรนฮาร์ด กรินเดล ประธานสมาคมฟุตบอลเยอรมันในเวลานั้น เป็นคนที่จ้องโจมตี โอซิล ว่าเป็นต้นเหตุของความล้มเหลวของทีมอินทรีเหล็ก
ซึ่งท้ายที่สุด โอซิล ตัดสินใจอำลาทีมชาติ เพราะรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้รับความเป็นธรรม และถูกเอาประเด็นเรื่องเชื้อชาติมาโจมตี ทั้งๆ ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับความล้มของทีชาติเยอรมันที่เกิดขึ้นในฟุตบอล
“ไรน์ฮาร์ด กรินเดล กดดันให้ผมอธิบายเรื่องนี้ต่อสาธารณะ และโทษว่าผลงานอันล้มเหลวของทีมชาติในฟุตบอลโลกรัสเซียเป็นความผิดของผม ในสายตาของ เรนฮาร์ด กรินเดล มองว่าผมเป็นคนเยอรมันเมื่อทีมชนะ แต่เป็นแค่คนอพยพเมื่อทีมแพ้”
แต่ล่าสุด ฟรีดริช เคอร์ติส เลขาสมาคมฟุตบอลเยอรมัน ออกมาพูดยอมรับผิดในเรื่องนี้
“สมาคมฟุตบอลเยอรมัน ทำสิ่งที่ผิดพลาดในการรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับ เมซุต โอซิล”
“ภาพถ่ายที่ออกมา (โอซิล ถ่ายคู่กับ ปธน.ของตุรกี) กลายเป็นประเด็นที่ร้อนแรงในหลายเรื่อง มันเกิดเป็นข้อกล่าวหาเรื่องการเหยียดเชื้อชาติ ในเวลานั้นเราทำผิดพลาด ที่ไม่ได้พูดคุยเรื่องนี้กับนักเตะ”